ดินในเมือง แทบจะไม่มีเนื้อดินส่วนมากแล้วเต็มไปด้วยเศษขยะก่อสร้าง โดยเฉพาะเมื่อเพิ่งทำการปรับปรุงบ้าน เศษปูน ทราย แม้กระทั่งเหล็กปะปนอยู่ในดินจนแทบไม่สามารถขุดเพื่อปลูกได้ เราซื้อดินดีมาช่วยต้นไม้ในระยะแรกเพื่อเพิ่มหน้าดิน เพราะใช้หลักกสิกรรมธรรมชาติคงต้องใช้เวลา แล้วก็เริ่มปลูก "ขจร" กิ่งชำที่สั่งมาจากอินเตอร์เน็ทเป็นครั้งแรกที่สั่งต้นไม้ เพราะอยากรู้ว่าเขาส่งต้นไม้ กิ่งชำ ผ่านอินเตอร์เน็ทกันอย่างไร ปรากฎว่า เขามัดมาแน่นหนา กิ่งไม่มีช้ำเลยและถือว่าเราโชคดี ได้ร้านที่ดีไม่โกงเรา
ขจรทั้ง 4 ต้นตอนจึงได้ลงดิน และค่อยๆ เติบโต
ปลูกขจรบนดินขยะก่อสร้าง
ตัดตอนไปพร้อมกัน
หลังจากขจรเริ่มเลื้อย พร้อมเสาวรส และอื่นๆ คนปลูกก็เริ่มคาดหวังว่าจะได้เห็นดอก ใบ ที่งดงาม และได้ลิ้มรสของผัดขจรฝีมือตัวเองในวันหนึ่ง เฝ้านับดูการเติบโตของต้นแต่ละต้น ทีละใบ ทีละใบ
แล้ววันหนึ่งเมื่อกลับจากทำงานมาบ้าน หลังวันที่ลุงคนสวนได้มาช่วยตัดต้นไม้ และถางหญ้าต่างๆ
ขจรทั้ง 4 ก็อันตรธานหายไปพร้อมหญ้า
ได้แต่ยิ้มแห้งๆ .... เวลาต้นอ่อนหน้าตามันเหมือนกันจริงๆ ช่วยไม่ได้นะ
งอกงามและเติบโต
หลังจากนั้นไม่นาน เริ่มมีต้นใหม่งอกมาจากดิน
ดีใจมาก ขจร สู้เขาๆ ขจรทั้ง 4 รอดมา 1 ต้น รีบโตอย่างรวดเร็ว ปะปนไปกับตำลึง และแน่นอนครั้งนี้ได้บอกลุงไว้แล้วว่าช่วยเว้นชีวิตต้นขจรไว้ด้วย
แล้วเวลาก็ผ่านไปไวมาก ไปทำงาน กลับบ้าน ไม่ได้ลงไปในสวนเลย
จนวันนึง ได้กลิ่นหอมอ่อนๆ หอมนุ่มๆ
เดินตามไปมองหาต้นทางของกลิ่น
ดอกขจร บานแล้ว หลายช่อออกดอกงามสีขาวปนเหลือง
บางต้นก็ปล่อยปลายสาย ย้อยลงมา มีพวงดอกห้อยปลายมองคล้ายดอกโฮย่าสวยงาม
ดีใจ เข้าไปคว้ากกรรไกรมาตัดช่อขจร อยากจะทดลองผัดน้ำมันกินสักหน่อย
หรือนาบไฟ ผัดไข่ดีนะ ในใจคิดแล้วก็ตัดช่อนั้น ช่อนี้ไปด้วย
ขณะกำลังนำช่อเล็กๆ ออกมาจากพุ่มขจร
ก็รู้สึกถึงการดึงรั้ง
หนวดเล็กๆ ที่ปลายกิ่ง พันอยู่กับกลีบดอกอย่างเหนียวแน่น
ต้องออกแรงดึงเพื่อให้ได้ขจรช่อนั้นมา
แล้วก็เป็นช่อสุดท้าย
แม่ขจรก็คงอยากได้ช่อดอกไว้กับตัว ให้เพื่อนมด เพื่อนแมลงมาดม มาชิม
แล้วรอจนลูกขจรเล็กๆ ก่อตัวเป็นฝัก
ไม่กินก็ได้
เท่านี้ก็พอ
เรื่องเล่าเช้านี้จากพุ่มขจร
#สรุปว่า เลี้ยงขจรเป็นไม้ดอกดีงาม
อดทน ผ่านร้อนฝน และเป็นไม้ยืนต้นอายุหลายปี
ปลูกครั้งเดียว ขจร ขจาย