ผักปั่นจากสวนของฉัน
จุดเริ่มต้นของการกินผักปั่น เริ่มต้นเมื่อ 8 ปีที่แล้ว ตอนนั้นแพรวป่วยจากการใช้ชีวิตที่เร่งรีบ
ข้าวเช้ากินเที่ยง ข้าวเที่ยงกินเย็น ข้าวเย็นกินก่อนนอน ได้นอนวันละ 3-4 ชม.ต่อวัน กินนอนทำแบบนี้มา15 ปี จนมาวันหนึ่งเริ่มป่วยหนัก เริ่มจากเป็นกรดไหลย้อน เป็นหนักมาก ไม่สามารถกินอาหารอย่างอื่นได้นอกจากข้าวต้มกับน้ำกลางคืนนอนต้องนั่งหลับเพราะกรดตีขึ้นตลอดต้องลุกอ้วก2-3ครั้งต่อคืน นอกจากนั้นยังเป็นโรคกระเพาะอาหารและริดสีดวง มีซีสที่รังไข่ข้างซ้ายกดทับเส้นประสาท ทำให้เอาเท้าลงพื้นไม่ได้ เดินไม่ได้ และเป็นหมอนรองกระดูกสันปวดหลังชาขาตลอด ตื่นเช้ามาเหน็บกินไปครึ่งตั้งแต่สะโพกไปถึงเท้า ต้องนวดพักใหญ่ถึงจะขยับตัวเข้าห้องน้ำได้ ตอนนั้นรู้สึกว่าเพิ่งอายุ25ทำไมป่วยหนักจังเลยเศร้าและท้อกับร่างกายที่ต้องค่อยไป รพ.ทุกอาทิตย์ กินยาทุกวัน จนค่าตับสูง ตอนนั้นคุยกับตัวเองว่า หากเป็นแบบนี้ตับแข็งตายแน่เลย จึงนั่งคิดว่าจะทำยังไงถึงจะหายป่วยและทำยังถึงจะเลิกพึ่งพายาจาก รพ.และจะหาวิตามินสารอาหารจากไหนแทนวิตามินสังเคราะห์ เริ่มอ่านหนังสือ หาข้อมูล เจอค่ายสุขภาพแพทย์วิถีธรรม จึงได้สมัครไป ได้เรียนรู้การเป็นหมอดูแลตัวเอง ปรับเรื่องอาหาร(ไม่แปรรูป ไร้สารเคมี) อากาศ(แสงแดด อากาศบริสุทธิ์) อารมณ์(ทำสมาธิ มีสติ) ออกกำลังกาย (ว่ายน้ำ เดินเร็ว โยคะ) นอน(พักผ่อนให้เพียงพอ นอนก่อน21.00 ตื่น 05.00) ขับถ่ายให้ได้วันละ1-2ครั้ง (ขับพิษ ดีท็อกซ์) ดื่มน้ำสะอาดให้ได้ 3ลิตรขึ้น กินผักหลากสีให้ได้วันละ 500 กรัม แพรวปฏิบัติต้นแบบนี้อยู่ประมาณ 6 เดือน สิ่งที่เปลี่ยนแปลงคือ ริดสีดวงดีขึ้นไม่ถ่ายเป็นเลือดอีกเลย ซีดที่รังไข่หาย กรดไหลย้อนหาย หมอนรองกระดูกไม่ปวดหลัง เดินได้ ใช้ชีวิตมีความสุขมากขึ้นกว่าเดิม
แพรวปั่นผักกินทุกวันสลับกับผักต้มในแต่ละมื้อ
ผักปั่น1แก้วประกอบด้วย
หัวใจหลัก❤️ กล้วยสุก มิ้นท์ มะนาว ขิง เกลือส่วนผักจะเปลี่ยนไปตามที่มีในบ้าน เช่น กาบหอย หญ้าปักกิ่ง อ่อมแซบ คะน้า วอเตอร์เกท ใบหม่อน แปะกำปึง ต้นอ่อนทานตะวัน จิงจูฉ่าย อื่นฯลฯ ตามแต่ที่มีในบ้าน แต่สิ่งสำคัญจะทำให้น้ำผักอร่อยคือหัวใจหลัก มีฤทธิ์ร้อนเย็นอยู่ในแก้วเดียว ไม่แน่นท้อง ตอนเลอออกมาหอมด้วยกลิ่นมิ้นท์และขิง เพราะป่วยจึงเปลี่ยนตัวเองโชคดีที่เป็นตอน 25 มีโอกาสได้เรียนรู้ดูแลตัวเองให้มากขึ้น รักตัวเองมากขึ้น